ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี คว้ารางวัล “ปูชนียบุคคล บุคคลแห่งชาติ ปี 2568” เกียรติสูงสุดเชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ – สะท้อนบทบาทนักวิชาการสร้างสันติภาพเชื่อมไทยสู่เวทีโลก
ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี คว้ารางวัล “ปูชนียบุคคล บุคคลแห่งชาติ ปี 2568” เกียรติสูงสุดเชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ – สะท้อนบทบาทนักวิชาการสร้างสันติภาพเชื่อมไทยสู่เวทีโลก
กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการศึกษาทางไกล (ประเทศไทย) จัดพิธีประกาศเกียรติคุณ “รางวัลปูชนียบุคคล บุคคลแห่งชาติ ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568” เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ ห้องเตมียเวช ตึกบัญชาการ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยปีนี้ ดร.ณัชรัตน์ กล่ำทวี นักวิชาการอิสระด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญการทูตภาคประชาชน และนักพัฒนาสังคม ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ได้รับรางวัลสำคัญระดับชาติ สะท้อนถึงคุณูปการที่ท่านได้อุทิศเพื่อบ้านเกิดและประเทศชาติมาอย่างยาวนาน
บรรยากาศในพิธี: สง่างาม อบอุ่น และทรงคุณค่า
ภายในงานมีผู้แทนจากกระทรวงต่าง ๆ ผู้นำทางการศึกษา นักวิชาการ และองค์กรภาคประชาชนจากทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดีและความภาคภูมิใจต่อผู้ได้รับรางวัล ซึ่งล้วนเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ
เมื่อชื่อของ ดร.ณัชรัตน์ ถูกประกาศขึ้นบนเวที เสียงปรบมือดังก้องทั่วห้องประชุม ถือเป็นช่วงเวลาที่สะท้อนถึงการยอมรับในผลงานและความมุ่งมั่นของท่านตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผลงานโดดเด่น: นักสร้างสันติภาพ – นักเชื่อมความสัมพันธ์ – นักพัฒนาสังคมดร.ณัชรัตน์ เป็นผู้ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องในด้าน People to People Diplomacy หรือการทูตภาคประชาชน ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในยุคโลกาภิวัตน์ โดยมุ่งเชื่อมความร่วมมือระหว่างชุมชน ท้องถิ่น องค์กร และประเทศเพื่อนบ้านในประเด็นสันติภาพ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ท่านมีส่วนร่วมผลักดันกิจกรรมเพื่อความสงบสุขในพื้นที่ภาคใต้ และยังสร้างเครือข่ายกับนานาประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางซึ่งมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง
หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ คือการได้รับการประสานงานจาก เอกอัครราชทูตวิสามัญจากมหานครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ให้ทำหน้าที่ดูแลภารกิจของท่านทูตอย่างเป็นทางการในไทย ซึ่งช่วยเปิดความร่วมมือใหม่ในด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว แรงบันดาลใจจากพระราชจริยวัตรรัชกาลที่ 9 ดร.ณัชรัตน์กล่าวว่า การทำงานเพื่อประเทศชาติเป็น “หน้าที่ที่ต้องทำ” โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นแบบอย่างการทำงานหนักเพื่อประชาชนของในหลวงรัชกาลที่ 9
“พระองค์ท่านทำงานหนักกว่าคนไทยทุกคน นั่นทำให้ผมรู้สึกว่า ผมเองก็ต้องทำให้ดีที่สุดเช่นกัน”
ท่านกล่าวด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แม้ไร้งบประมาณ แต่ไม่เคยหยุดทำงานเพื่อบ้านเกิด ด้านอุปสรรค ท่านยอมรับว่า สิ่งที่หนักที่สุดคือ “งบประมาณที่แทบไม่มี” ทำให้ต้องพึ่งพากำลังใจจากครอบครัวและทีมงานเป็นหลัก แต่ยังคงยืนหยัดทำงานต่อ เพราะเชื่อว่า “การสร้างความเข้าใจและสันติภาพคือภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ความอดทนและหัวใจที่มุ่งมั่นนี้คือเหตุผลสำคัญที่ท่านได้รับการยกย่องในระดับประเทศ
รางวัลระดับชาติ: พลังผลักดันเพื่อเดินหน้าต่อ
สำหรับ ดร.ณัชรัตน์ รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ แต่เป็น “เครื่องมือ” ที่ช่วยให้การทำงานมีทิศทางและอำนาจเชิงสังคมที่มากขึ้น ช่วยให้การประสานงานกับองค์กรต่างประเทศมีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น
“มันไม่ใช่รางวัลของผมคนเดียว แต่เป็นของครอบครัว ทีมงาน และทุกคนที่สนับสนุนผมมาตลอด” ก้าวต่อไป: สร้างเครือข่ายครอบคลุม 7 ทวีป เป้าหมายของท่านในอนาคต คือการขยายความร่วมมือด้านการต่างประเทศให้ครอบคลุมทั้ง 7 ทวีป โดยเน้นเรื่อง การศึกษาแลกเปลี่ยน การท่องเที่ยวยั่งยืน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างชุมชน
การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศไทยบนเวทีโลก สร้างประโยชน์ให้สังคมไทยในระยะยาว บทบาทของท่านในด้านการทูตภาคประชาชน ทำให้ไทยมี “จุดเชื่อมโยงกับโลก” ที่เข้มแข็งขึ้น ทั้งด้านภาพลักษณ์ การลงทุน และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศในระยะยาว ฝากถึงสังคมไทยและสถาบันการศึกษา
ดร.ณัชรัตน์เรียกร้องให้ทุกสถาบันการศึกษา “ปลูกฝังความรู้ด้านการต่างประเทศ” เพื่อเตรียมคนรุ่นใหม่ให้พร้อมแข่งขันในโลกยุคใหม่ พร้อมย้ำว่า
“ความต่างทางศาสนาและวัฒนธรรม ไม่ใช่อุปสรรค แต่คือความงดงามที่ทำให้มนุษย์เรียนรู้กันได้”
About The Author
