“นครพนม” มนต์เสน่ห์เมืองน่าเที่ยวริมโขง ศูนย์รวมความศรัทธาชาวไทย กราบ “พระธาตุพนม” ศาสนาสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนอีสาน พร้อมขอพรความสำเร็จกับ “องค์ปู่พญาศรีสัตตนาคราช”
“นครพนม” มนต์เสน่ห์เมืองน่าเที่ยวริมโขง ศูนย์รวมความศรัทธาชาวไทย กราบ “พระธาตุพนม” ศาสนาสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนอีสาน พร้อมขอพรความสำเร็จกับ “องค์ปู่พญาศรีสัตตนาคราช”
…เรียกว่า เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ อย่างไม่เสื่อมคลาย สำหรับ จังหวัดติดริมแม่น้ำโขงอย่าง “นครพนม” ที่ไม่ว่าจะเป็น อาหาร วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวบ้าน ยังคงมีเสน่ห์ดังเดิม ตามแบบวิถีชีวิตของขาวนครพนม…
การเดินทางมาจังหวัด นครพนม สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือ รถโดยสาร กรุงเทพฯ-นครพนม หรือ แม้แต่ การโดยสารสายการบิน ซึ่งครั้งนี้ แอดมิน ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี จากอาจารย์คฑา ชินบัญชร พรีเซ็นเตอร์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณพร้อมศักดิ์ จรัญญากรณ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี คุณชุตินันท์ รวมพลังเอก ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) เหินฟ้าด้วยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย มายังจังหวัดนครพนม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมโครงการ พีที แมกซ์ การ์ด ท่องเที่ยว 72 เส้นทางสายศรัทธา 55 เมืองน่าเที่ยว ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ พีที แมกซ์ การ์ด โรงแรมในเครือฟอร์จูน บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน) ตลอดจน ซิกท์ เร้น อะ คาร์ และพันธมิตร จัดขึ้นที่ จังหวัดนครพนม
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเมืองรอง ภายใต้แนวคิด ชวนคนไทยเที่ยวตามรอยเส้นทางสายศรัทธาที่ทรงคุณค่าในเมืองรอง เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศกลับสู่เมืองรอง รวมถึงเพื่ออนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม คตินิยม ให้คงอยู่เป็นสมบัติของท้องถิ่นและวิถีชุมชน พัฒนาวัฒนธรรมให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมและที่สำคัญคือเพื่อกระตุ้นความคึกคักให้เมืองรองและการพัฒนาคุณภาพและบริการให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว
“พระธาตุท่าอุเทน” พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันศุกร์
กล่าวขอบคุณ ผู้ใหญ่ใจดีอย่างพอหอมปากหอมคอ กันไปแล้ว ก็มาเล่าเรื่องราว ของการได้ไปเยือนจังหวัดนครพนม กันดีกว่า ซึ่งหลังจากที่ลงเครื่อง ที่ท่าอากาศยานนครพนม กันแล้ว ก็มุ่งหน้าไปยังหมุดหมายแรก กันที่ “วัดพระธาตุท่าอุเทน” ถือเป็นวัดประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันศุกร์
…เข้าไปภายในซุ้มประตูทางเข้าวัด สิ่งแรกที่ได้เห็นคือ “พระพุทธรูปปางรำพึง” พระประจำวันเกิดของคนเกิดวันศุกร์ ที่มีเบื้องหลังของพะพุทธรูปองค์นี้ เป็น “พระธาตุท่าอุเทน” ลักษณะของเจดีย์สีขาว ก่ออิฐถือปูนเป็นรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งเป็นการจำลองรูปแบบมาจาก “พระธาตุพนม” แต่มีขนาดเล็กกว่า ขณะที่องค์พระธาตุท่าอุเทน หันไปทางทิศเหนือของพระธาตุพนม ถือเป็นทิศที่ตรงกันทิศประจำของคนเกิดวันศุกร์ โดยภายในพระธาตุ ได้บรรจุพระพุทธสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากเมืองย่างกุ้ง สหภาพเมียนมา รวมถึงพระพุทธรูป และของมีค่าต่างๆ ที่มีผู้มีจิตศรัทธาบรรจุถวายเอาไว้ภายใน
ว่ากันว่า ผู้ที่เกิดวันศุกร์ หากได้มามนัสการ “พระธาตุท่าอุเทน” จะได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีความรุ่งโรจน์ เปรียบเสมือนพระอาทิตย์ขึ้นยามรุ่งอรุณ ที่ทอแสงสีทอง….บอกเลยว่า ผู้ที่เกิดวันศุกร์ ไม่ควรพลาดที่จะมาสักการะ พระธาตุท่าอุเทน
ชิมปลาน้ำโขง-ชมวิวแม่น้ำสองสี
กราบพระธาตุท่าอุเทน แล้ว มองนาฬิกา ก็ปาเข้าเกือบเที่ยววัน ท้องก็เริ่มร้องจ็อกๆ ก็ต้องไปหาของอร่อยใส่ท้องกันสักหน่อย โดยร้านที่จะฝากท้องวันแรก ของการเดินทางมาจังหวัดนครพนม ก็ต้องเป็น “สวนอาหารปากน้ำ ไชยบุรี” ร้านอาหารอีสาน ที่มีชื่อในเรื่องของเมนูปลาจากแม่น้ำโขง
แค่เสิร์ฟเมนูแรก ก็ต้องร้องว้าว! แล้ว กับ ลาบปลา รสแซ่บ ที่ตามมาด้วย ต้มยำปลาแข้ ปลาเนื้ออ่อนทอดกรอบ และทอดมันปลา เป็นต้น บอกเลยว่า ใครที่ชอบเมนูปลา ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เพราะแต่ละเมนูอร่อยจริงๆ ซึ่งหลังจากที่อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารแล้ว ก็ต้องขอไปเดินเล่น ชมวิว และทิวทัศน์รอบ ๆ สวนอาหารกันหน่อย เพราะทำเลที่ตั้งของสวนอาหารแห่งนี้ อยู่ใกล้กับสามเหลี่ยมปากแม่น้ำสงคราม และแม่น้ำโขง โดยชาวบ้านเรียกจุดนี้ว่า แม่น้ำสองสี เป็นอีกมุมสวยที่ทุกคนสามารถไปถ่ายรูปเช็คอิน
ชมโบสถ์คริตส์โบราณอายุ 100 ปี ชุมชนบ้านคำเกิ้ม
จากนั้น ก็เดินทางต่อไปยัง “ชุมชนบ้านคำเกิ้ม” ชุมชนเก่าแก่และเป็นชุมชนชาวคริสต์แห่งแรกของจังหวัดนครพนม โดยชุมชนแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งที่นี่ เราจะได้พบกับ โบสถ์คริสต์โบราณที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งตั้งอยู่ภายใน “วัดนักบุญยอเซฟ บ้านคำเกิ้ม” โดยมีวิทยากรประจำชุมชน จะมาคอยบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของชุมชน และ โบสถ์คริสต์โบราณ แห่งนี้ ให้ทุกคนได้ฟังอย่างสนุกสนาน พร้อมกับการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประจำชุมชน รวมถึงกิจกรรมเวิร์คชอปหัตถศิลป์ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำกันด้วย อาทิ การพับดาว จากวัสดุเหลือใช้
สนุกสนานกันที่ ชุมชนบ้านคำเกิ้ม อย่างเต็มอิ่มกันแล้ว ก็ไปนั่ง “รถราง” เพื่อชมวิถีชีวิตของเมืองนครพหานม ผ่านตลอดเส้นทางริมแม่น้ำโขง ไปตามถนน สุนทรวิจิตร พร้อมขมทิวทัศน์ริมฝั่งโขงยามบ่าย ผ่าน “หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์” ที่ตั้งเด่นอยู่ในย่านบ้านเรือนเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมเวียดนามของเมืองนครพนม ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม เพื่อเข้าพักผ่อนอิริยาบถ รวมถึงอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะไปร่วมพิธีบวงสรวง “องค์ปู่พญาศรีสัตตนาคราช ในช่วงหัวค่ำ ต่อไป
บวงสรวงปู่พญาศรีสัตตนาคราช ริมแม่น้ำโขง
ก่อนที่จะไปเข้าพิธีบวงสรวงองค์ปู่พญาศรีสัตตนาคราช ที่ลานศรีสัตตนาคารราช ก็ต้องขอไปเติมพลังในช่วงเย็นกันสักหน่อย ที่ร้านอาหาร “เป๋นปลาเป็น” ที่มีเมนูต่างๆ ให้เลือกอิ่มอร่อย ไม่ว่าจะเป็น ยำเป๋นปลาเป็น ไก่ทอดตะไคร้ คอหมูทอด ลาบปลาแข้ ปลาคังผัดฉ่า ปลาเผาะทอดน้ำปลา บอกเลยว่า แต่ละเมนูอร่อยจนพุงกางเลยทีเดียว
เติมพลังด้วยอาหารอร่อยๆ กันแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าพิธีบวงสรวง “องค์ปู่ศรีสัตตนาคราช” องค์พญานาคสีเหลืองทองอร่าม มี 7 เศียร ประดิษฐานอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำโขง แค่เห็นก็รูสึกอิ่มเอมใจ อย่างบอกไม่ถูก โดยในส่วนพิธีการบวงสรวง เป็นการนำโดย อาจารย์คฑา ชินบัญชร ที่ชวนทุกคน สวดมนต์ พร้อมกราบขอพรองค์ปู่ศรีสัตตนาคราช ตามด้วย การรำบวงสรวงที่สวยงาม ริมแม่น้ำโขง เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ให้กับผู้เข้าร่วมพิธีอย่างมาก
หลังจากที่ได้รับพร และความเป็นสิริมงคล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์คฑา ให้เดินเล่นบนถนนคนเดิน ที่มีข้าวของเครื่องใช้ ของตกแต่งบ้าน รวมถึงอาหารการกินมากมาย มาตั้งขายกันอยู่สองฟากฝั่งของถนน โดยหนึ่งในร้านที่อยากให้ทุกคนได้มาแวะเวียนกัน จะเป็นร้านขายขนมไทย รสดี ที่มีขนมอร่อยๆ รอบริการทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ถั่วดำน้ำกะทิ ทิบทิมกรอบ สาคูเปียก และข้าวเหนียวหน้าตางๆ รวมถึงขนมหวานอีกหลายเมนู ที่กินไปก็ต้องร้องว้าวไป เพราะขนมของเขา อร่อยจริงๆ หวานอร่อยกำลังดี ซึ่งหากใครสนใจจะแวะเวียนไป ร้านนี้เขาตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดโอกาส สังเกตง่ายๆ แม่ค้า พ่อค้าของร้านนี้ จะแต่งตัวด้วยชุดไทยสวยงาม ปูเสื่อ ตั้งโต๊ะตัวเล็กๆ ขายขนมอย่างน่าเอ็นดู
เรียกว่า อิ่มอร่อย กันก่อนที่จะเดินทางกลับมาที่โรงแรม ฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม เพื่อพักผ่อนรอรับการเดินทางท่องเที่ยวในวันต่อไป
ตื่นเช้า-ใส่บาตรพระริมแม่น้ำโขง และกราบขอพร องค์พระธาตุพนม
นาฬิกาทำหน้าที่ปลุก ได้ตรงเวลา ตามที่ตั้งไว้ 05.15 น. เพื่อบอกให้รู้ว่า ต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำ แปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดสวย เพื่อเตรียมพร้อมไปใส่บาตร ที่หน้าวัด “พระมหาธาตุ” ซึ่งทุกเช้าพระสงฆ์ ของทางวัด จะเดินเรียงแถวยาวออกจากวัด เวลา 06.00 น.ข้ามมายังถนนฝั่งตรงข้ามของวัด ที่ติดกับแม่น้ำโขง เพื่อให้ประชาชนที่ยืนรอ ได้ใส่บาตร เป็นอีกภาพความสวยงามของวิถีพุทธศาสนิกชน โดยมีภาพของพระอรุณ ทอแสงสีทอง อยู่อีกฟากหนึ่งของท้องฟ้าฝั่ง สปป.ลาว เหมือนเป็นการต้อนรับเช้าวันใหม่ และยังเป็นอีกภาพความสวยงามให้ทุกคนได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
หลังใส่บาตร ก็เดินทางกลับไปโรงแรมอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อม กับการไปสักการะ “องค์พระธาตุพนม” ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ ที่เชื่อว่า ผู้ที่ได้มากราบขอพรพระธาตุ จะเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตแล้ว ยังส่งเสริมให้เป็นผู้มีบารมีที่ทำให้คนเคารพนับถือ และเป็นผู้ที่มีใจคอเด็ดเดี่ยว หนักแน่น ซึ่งที่วัดพระธาตุพนมวรวิหาร อาจารย์คฑา ชินบัญชร ได้จัดเตรียมสถานที่รอต้อนรับพวกเราไว้แล้ว พร้อมกับนำสวดบทเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเทียนพรรษา และ ผ้าเนื้อดีสำหรับห่มองค์พระธาตุ ก่อนนำเวียนทักษิณาวัตร รอบองค์พระธาตุพนม 3 รอบ เพื่อนำผ้าเข้าไปห่มองค์พระธาตุ ซึ่งในช่วงเวลานั้น หากใครได้เงยหน้ามองขึ้นไปบนยอดพระธาตุพนม ก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ทรงกลด สวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งความอัศจรรย์ใจ ที่ได้มาร่วมบุญในครั้งนี้
ก่อนจะปิดท้าย ทริปเมืองน่าเที่ยว “นครพนม” ก็ต้องแวะไปอิ่มอร่อย กับอาหารเวียดนามที่ร้านอาหาร “ดาวทอง” กันสักหน่อย เพราะที่นี่ นอกจากจะได้รับประทาน ขนมเบื้องญวนแท้ๆ ปอเปี๊ยะทอด และอาหารเวียดนามอีกมากมายแล้ว ที่นี่ ยังถือเป็นจุดซื้อของฝากแสนอร่อย อย่าง แหนมเนือง ที่ถือเป็นของเด็ดของดีประจำจังหวัดนครพนมอีกด้วย และเพื่อเป็นการปิดทริปอย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนที่จะเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ก็ต้องขอแวะไปสักการะ “พระธาตุนคร” พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันเสาร์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัดพระมหาธาตุ ที่ตอนเช้า เราได้มาใส่บาตรนั่นเอง โดยอานิสงส์ของผู้ที่มากราบไหว้ จะช่วยเสริมบุญบารมี และมีอำนาจวาสนา ได้เป็นเจ้าคนนายคน
พระธาตุประจำวันเกิด (ควรไปกราบ)
จังหวัดนครพนา ยังมีพระธาตุ ประจำวันเกิดของแต่ละวัน อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น “วัดพระธาตุเรณู” พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันจันทร์ ซึ่งภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระไตรปิฎก และเครื่องราชกกุธภัณฑ์ โดยลักษณะขององค์พระธาตุ เป็นสีชมพู โดยผู้ที่มาสักการะ จะได้รับอานิสงส์ ให้มีผิวพรรณงดงามผุดผ่องดั่งแสงจันทร์
นอกจากนี้ ยังมี “พระธาตุศรีคูณ” ประดิษฐานในวัดพระธาตุศรีคุณ พระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันอังคาร ตั้งอยู่ในอำเภอนาแก จังหวัดนครพนม หากใครได้ไปกราบสักการะ จะได้อานิสงส์ ให้มีศักดิ์ศรีทวีคูณ หรือจะเป็น “พระธาตุมหาชัย” พระธาตุประจำวันเกิดวันพุธ(กลางวัน) อ.ปลาปาก จ.นครพนม ประดิษฐานภายในวัดพระธาตุมหาชัย ซึ่งอานิสงส์ ของผู้มากราบไหว้ จะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต จะเป็นนักประสานสิบทิศ โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ และการกราบไหว้ยังช่วยเสริมบารมีให้ค้าขายร่ำรวย
“พระธาตุมรุกขนคร” ประดิษฐานอยู่ที่วัดมรุกขนคร บ้านดอนนางหงส์ท่า ตำบลดอนนางหงส์ อำเภอธาตุพนม เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้ที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ซึ่งเชื่อกันว่า ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุ จะได้รับอานิสงค์ส่งผลให้เกิดความดีความชอบ เพิ่มความรัก แลพ ความสามัคคี และปิดท้ายกันที่ “พระธาตุประสิทธิ์” พระธาตุประจำวันเกิดวันพฤหัสบดี อ.นาหว้า ประดิษฐานอบู่ภายในวัดพระธาตุประสิทธิ์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุ จะได้รับอานิสงค์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการงาน ก้าวหน้าสมดังประสงค์
แม้ทริป การท่องเที่ยว “นครพนม” ที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้นๆ จะจบลงไปแล้ว แต่ภาพของเส้นเรื่อง ระหว่างการเดินทางในจังหวัดนครพนม ยังคงมีความประทับใจอีกมากมาย ซึ่งหลังจากนี้ แอดมิน ตั้งใจอยากจะกลับ จังหวัดนครพนม อีกครั้งแน่นอน
Fortune River View Hotel Nakhon Phanom โรงแรมฟอร์จูน ริเวอร์วิว นครพนม
คุณชัยวัฒน์ พิริยะภาดา ผู้จัดการอาวุโส, โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวนครพนมและฟอร์จูนวิวโขง
ขอบคุณ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
บริษัท แมกซ์ โซลูชัน เซอร์วิส จำกัด บริษัทในเครือพีทีจี
ซี.พี. แลนด์ จำกัด (มหาชน)
สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย
โรงแรม ฟอร์จูริเวอร์วิว นครพนม
ซิกท์ เร้น อะ คาร์ (SiXT Rent a car)
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย#โครงการพีทีแมกซ์การ์ดท่องเที่ยว72เส้นทางสายศรัทธา
#นครพนมเมืองน่าเที่ยว#พีทีแมกซ์การ์ด#โรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิว#CPLAND#SiXTRentacar